วันที่ 4 ม.ค.2567 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ ร่วมกับ นางศรีตระกูล ดีบุญมี ณ ชุมแพ ประธานเครือข่ายประธานชุมชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ ประธาน อสม.ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ พร้อมด้วยตัวแทนประธานชุมชน อสม. และคณะทำงานนาคาพิทักษ์ตำบล หัวโทนโมเดลของสถานีตำรวจภูธรชุมแพ ร่วมหารือรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง ปัญหาและอุปสรรคในการป้องกันและปราบปราม ปัญหายาเสพติด รวมถึงจำนวนผู้ป่วยทางจิต ติดยา คลุ้มคลั่งอาละวาดภายในชุมชน เพื่อนำมาหาแนวทาง วางมาตรการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทำให้ชุมชนเกิดความปลอดภัย เข้มแข็งยั่งยืน
พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหายาเสพติดแพร่ระบาด ผู้ป่วยทางจิต ติดยา คลุ้มคลั่งอาละวาดภายในชุมชน เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางสถานีตำรวจภูธรชุมแพ จึงจัดทำโครงการในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ร่วมกับทางผู้นำชุมชน ซึ่งในวันนี้ได้พูดคุยกับทางผู้นำชุมชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีจำนวนผู้ป่วยทางจิต ติดยา คลุ้มคลั่ง จำนวน 37 ราย เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในการติดตาม โดยให้ญาติ ผู้นำชุมชน อสม. รายงานพฤติกรรมผ่านกลุ่มไลน์ หากพบว่าไม่ยอมรับการรักษา กินยา จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครอง รพ.เข้าพูดคุยทันที เพื่อป้องกันเหตุคลุ้มคลั่งไล่ทำร้ายชาวบ้าน
พ.ต.อ.รักชาติ กล่าวอีกว่า “บ้า หลอน คลั่ง” หากตรวจสอบป่วยจริงนำส่งจิตเวชรักษา หากป่วยไม่ถึงขั้นนำตัวรักษา แต่ก่อเหตุก็จะจับกุมดำเนินคดีติดคุก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องรับยาจากโรงพยาบาลมาทานเพื่อระงับสติอารมณ์ หากไม่ยอมทานยา ให้ทางชุมชนแจ้งมาที่กลุ่มไลน์ เพื่อจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปบังคับให้กินยา เพื่อป้องกันเหตุคลุ้มคลั่ง ไล่ทำร้ายคนในบ้าน ชุมชนเพราะเหตุขาดยา ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แทนที่จะรอเข้าระงับเหตุซึ่งมีความเสี่ยงต่อผู้ปฏิบัติงาน
ด้านนางศรีตระกูล ดีบุญมี ณ ชุมแพ ประธานเครือข่ายประธานชุมชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ ประธาน อสม.ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ กล่าวว่า ทางเครือข่ายประธานชุมชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ เล็งเห็นว่า ปัญหายาเสพติดเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อชุมชน จึงมีแนวคิดในการทำงานเชิงรุก ในการป้องกันและปราบปราม โดยเฉพาะงานด้านมวลชนสัมพันธ์ เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดลดการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชน และสถานศึกษา โดยเฉพาะปัญหาผู้ป่วยทางจิต ติดยา คลุ้มคลั่งอาละวาดในพื้นที่ นับวันจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง โอกาสนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่จะได้ร่วมมือกันทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับชุมชน เพื่อเเก้ไขปัญหา ให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็ว ซึ่งจะส่งผลเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันครอบครัว ชุมชน และสังคม
